Give and Take เทคนิคง่ายๆในการยกระดับอาชีพของคุณ

เช้านี้เป็นเช้าที่สดใสอีกวันนะครับ เลยได้โอกาสเหมาะที่จะมาเขียนบทความแบ่งปันประสบการณ์อีกสักเรืองครับ ซึ่งบทความนี้ผมจะมาพูดถึงการยกระดับอาชีพของเรากันครับ โดยเฉพาะอาชีพฟรีแลนซ์ ซึ่งเป็นเทคนิคที่ผมลองมาแล้ว และเวิร์คมาก ลองอ่านกันดูนะครับ

พูดถึงอาชีพฟรีแลนซ์ ในเมืองไทยตอนนี้ก็กำลังเริ่มเป็นที่รู้จักกันมากขึ้นแล้วนะครับ หลายๆคนเองก็ผันตัวมาทำงานอิสระแบบนี้ เพราะชอบ Life Style ที่ไม่ต้องทำงานตามเวลาที่ต้องเข้าออกตอกบัตรให้ทัน แต่ก็อย่างว่าครับ งานฟรีแลนซ์เป็นงานที่ต้องแอคทีฟตลอด เป็นงานที่ทำมากได้มาก ทำน้อยได้น้อย ไม่ทำอะไรเลยก็อดได้ครับ

หนึ่งในคุณสมบัติของมนุษย์ปุถุชนทั่วไปนั่นก็คือ “ความต้องการที่ไม่รู้จักพอ” ครับ พอทำงานไปสักพัก จิตมันจะเริ่มสั่งให้เราอยากได้เพิ่มขึ้นเรื่อย อาทิเช่น ทำไงดีน๊า เพื่อให้ได้ตังค์มากขึ้น ได้งานมากขึ้น ได้บลาๆๆๆมากขึ้น ถ้ายกตัวอย่างง่ายๆ คือ ต้องการรายได้มากขึ้น ก็ต้องมาคิดอีกครับว่า แล้วจะทำอย่างไร? ต่อไปนี้คือวิธีที่จะทำให้ได้รายได้มากขึ้นครับ

  • หาลูกค้าเพิ่มขึ้น เพราะลูกค้าเพิ่มขึ้นก็ย่อมมีรายเพิ่มตามมา
  • เพิ่มค่าตัว ทำงานเท่าเดิมแต่ได้ผลตอบแทนมากขึ้น
  • หางานอื่นทำไปด้วย การทำงานหลายอย่าง ก็ได้ผลตอบแทนหลายเส้นทาง

นี่เป็นวิธีทั่วไปสามวิธี ที่คนส่วนใหญ่จะเลือกทำครับ ซึ่งมันก็เวิร์คจริงๆครับ แต่อย่างไรก็ตามมันก็ยังมีเรื่องท้าทายแฝงอยู่ในแต่ละวิธีครับ เช่น หาลูกค้าเพิ่มขึ้น แต่คุณทำอยู่คนเดียว เสกลงานก็จะต้องเปลี่ยนไปอีก เสกลเวลาก็ต้องเปลี่ยนไปอีก อย่ารับเยอะจนล้น เพราะแทนที่จะเกิดผลดี กลับจะเป็นผลเสียในระยะยาว ข้อนี้คุณต้องเป๊ะเรื่องการบริหารโปรเจ็คครับ

เพิ่มค่าตัวละ? ท้าทายอย่างไร? แน่นอนครับ การเพิ่มค่าตัว มันก็ทำได้ง่ายๆ แต่เราก็ต้องวางแผนให้ดีๆ เพราะบางทีอยู่ๆการเพิ่มค่าตัวโดยไม่มีเหตุผล มันก็ดูไม่ reasonable สำหรับลูกค้าที่เคยดีลงานกันมา แต่ถามว่าทำได้ไหม ก็ทำได้นะครับ เมื่อเรามีสกิลมากขึ้น เราจะสามารถปรับค่าตัวเราได้จริงครับ แต่ต้องปรับโดยอิงกับความสามารถของเรา เช่น ถ้าเราเก่งมากขึ้น เราสามารถทำงานได้เร็วขึ้น ทำให้ลูกค้าได้งานไวขึ้น แบบนี้ก็สามารถเพิ่มได้ครับ เพราะลูกค้าเองก็ได้ประโยชน์ (ถ้าต้องการงานด่วนๆ)

หางานอื่นทำไปด้วย  ข้อนี้ถ้าเป็นงานที่เป็นแนว Active เหมือนกัน ก็จะเหนื่อยหน่อยนะครับ เพราะบางครั้งลำพังแค่ทำงานหลักๆของเราก็แทบจะไม่มีเวลาไปหาแฟนอยู่แล้ว เนี่ยเล่นมีงานสองงานสามเข้ามาด้วย ก็ต้องวิ่งแจ้นไปโน่นไปนี่มาสาระพัดสาระเพ ดังนั้นถ้าจะให้ดี คือหางานอื่นที่เป็น Passive จะเวิร์คกว่าครับ มีหลายคนที่ผมรู้จัก เค้าจะทำ Passive เช่น เขียน Ebooks ขาย ทำธีมเว็บขาย เป็นต้น

ต่อมาเรามาดูกันครับ ว่าการที่จะให้มาซึ่งลูกค้าเพิ่มขึ้น หรือเพิ่มค่าตัวมากขึ้น มันต้องทำอย่างไร?  คำตอบคือ “คุณต้องโดดเด่น ลอยเหนือคนอื่นให้ได้ครับ”  โดดเด่นที่ว่า คือโดดเด่นเรื่องงาน สไตล์เฉพาะตัว ส่วนลอยเหนือคนอื่นก็คือระดับความสามารถ ระดับความน่าเชื่อถือ ที่จะช่วยยกตัวขึ้นให้สูงขึ้นเรื่อยๆ แล้วคนก็จะรู้จักคุณเรื่อยๆครับ

อ้าว แล้วมันทำไงละ ให้ทำตัวโดดเด่น ลอยเหนือคนอื่นเนี่ย?

เทคนิคง่ายๆ ที่ผมใช้มาแล้วดีมาก จึงมาบอกต่อ นั่นก็คือเทคนิค Give and Take ยิ่งให้ยิ่งได้ ครับ จริงๆหลักการนี้ก็เหมือนๆกับคำสอนในพระพุทธศาสนานะครับ ที่บอกว่า หว่านพืชเช่นใดย่อมได้ผลเช่นนั้น ถ้าเรามอบสิ่งดีๆให้กับคนอื่น เราก็จะได้รับสิ่งดีๆตอบกลับมาเช่นเดียวกัน

give

เทคนิคให้ไปก่อนนั้น ผมเลือกทำโดยการให้ “ความรู้” ที่ผมมีครับ ผมเริ่มแชร์ความรู้ที่ผมมีแบบจริงๆจังๆ ก็ตั้งแต่เริ่มมีบล็อกเป็นของตัวเองใน  exteen โดยเริ่มจากการมอบความรู้เรื่องการแต่งภาพด้วย Photoshop จากนั้นก็แชร์เรื่องการออกแบบเว็บ การทำเว็บ จนในที่สุด ทุกวันนี้ผมก็มีเรื่องการ “สอนทำเว็บ” รวมอยู่ด้วย

แรกเริ่มเดิมที ผมก็สอนไปตามเรื่องตามราวบนเว็บ ว่าผมรู้ว่าถ้าจะทำภาพแนวนี้ต้องทำแบบนี้ พอรู้แล้วก็เลยบอกต่อโดยการเขียนในบล็อก ก็ปรากฎว่าได้รับความสนใจล้นหลามมาก จำได้ว่ามีเรื่องที่กลายเป็น Hot Post เยอะเลย ก็ทำให้คนรู้จักเรามากขึ้นครับ เมื่อมาลองคิดดู หากว่าผมมีความรู้ แต่ไม่เคยแบ่งปันใคร ผมก็อาจจะไม่มีคนรู้จักมากเท่านี้ก็เป็นไปได้

“ความรู้” เป็นสิ่งที่มีค่าเหนือประมาณเลยนะครับ “มีความรู้ เหมือนมีทรัพย์อยู่นับแสน” คำพูดนี้จริงเสียยิ่งกว่าจริง ผมคอนเฟิร์ม 100% เพราะผมเองก็เริ่มต้นจากชีวิตติดดิน ลูกชาวไร่ชาวนา พ่อแม่ไม่มีเงินทองมากองให้ นอกจากให้ได้แค่การศึกษา ทรัพย์สินข้างหน้าลูกต้องพึ่งพาตัวเอง (ต้องกราบขอบพระคุณคุณพ่อคุณแม่ผม ที่สนับสนุนการศึกษาของผมเป็นอย่างดี)

“การสอน” นำมาเป็นอาชีพได้นะครับ ยิ่งเรื่องที่คุณรู้ เป็นเรื่องเฉพาะทางมากเท่าไหร่ Value ก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นไปเท่านั้น และมันจะช่วยยกระดับความน่าเชื่อถือของคุณไปด้วย ผมเองเคยเจอมาแล้ว ตอนที่ได้รับการติดต่อให้ไปสอนที่ประเทศลาว และบรรยายในมหาวิทยาลัยทั้งในแต่ต่างประเทศ ที่เค้าเลือกเราเพราะเค้าเห็นว่าเราสามารถสอนคนอื่นได้ เค้าก็เชื่อมั่นวาเรามีความรู้ในเรื่องนั้นเป็นอย่างดี เค้าจึงมั่นใจใช้บริการเรา  และนี่แหล่ะครับ มันจะยกระดับอาชีพของเราไปด้วย

ผมรู้ว่า ต้องมีบางคนคิดแน่ๆว่า อ้าว! แล้วไปสอนคนอื่นแบบนี้ เค้าก็รู้หมดสิ เช่น สอนคนทำ Theme WordPress เค้าก็ต้องรู้วิธีการทำเหมือนกัน แบบนี้เค้าก็กลายมาเป็นคู่แข่งเราสิ … แหม่ว์ ผมเองก็เชื่อครับว่า ลูกค้าเป็นคนที่ฉลาด เค้าย่อมเลือกในสิ่งที่เหมาะสมกับความต้องการของเค้าอยู่แล้วครับ ถ้าเค้าเลือกคนอื่น นั่นก็หมายความว่าความต้องการของเค้า ตรงกับความสามารถของคนๆนั้น ดังนั้นควรที่จะยินดีมากกว่าครับ เพราะถ้าเราได้ลูกค้าที่ต้องการให้เราทำ นั่นก็คือเค้าต้องการใช้บริการเราจริงๆ และคนที่ต้องการใช้บริการเราจริงๆ เนี่ยแหล่ะครับ คือลูกค้าชั้นยอดเลย :)

เทคนิค Give and Take สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้หลายๆอย่างเลยนะครับ ยกตัวอย่างเช่น ศูนย์หนังสือจุฬาฯ หากใครเคยผ่านไปใช้บริการ จะเห็นว่ามีโซนเด็กเล่น และมุมอ่านหนังสือฟรีภายในร้าน (แต่ก็เริ่มเห็นร้านอื่นๆเริ่มมีนโยบายอ่านฟรีแล้วเหมือนกัน) ผมมีโอกาสได้ถามผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องว่า ทำไมถึงให้คนอ่านฟรี และให้เด็กๆมาเล่นในร้านได้ ท่านตอบว่า

“มันคือการให้เค้าไปก่อน เช่น มีสนามเด็กเล่น เพราะต้องการให้เด็กได้มีความสุขระหว่างที่อยู่ในร้านหนังสือ ทำให้เด็กมีทัศนคติที่ดีมากขึ้นเกี่ยวกับร้านหนังสือ และเป็นการปลูกฝังตั้งแต่เด็กว่าให้รู้จักศูนย์หนังสือจุฬาฯ ส่วนพ่อแม่เด็กเองก็ได้รับเวลามากขึ้นในการเลือกซื้อหนังสือ เพราะไม่ต้องมีเด็กมางอแง บางคนเลือกนาน แต่ถ้าต้องหิ้วลูกไปด้วยตลอด มันก็ลำบาก นอกจากนั้นการมีมุมอ่านฟรีทั้งวี่ทั้งวัน เพราะต้องการมอบโอกาสให้คนที่ไม่มีเงินพอจะซื้อไปอ่าน ได้มีโอกาสอ่านหนังสือดีๆ ลำพังหนังสือเราก็มีเยอะอยู่แล้ว คนเหล่านี้ที่มาอ่านในวันนี้ ในวันหน้าเมื่อเค้ามีปัจจัยเพียงพอ เค้าก็กลับมาซื้อของของเรา”

ไม่น่าแปลกใจเลยว่า เพราะเค้ามีนโยบายอย่างนี้ ทำให้ตอนนี้ศูนย์หนังสือจุฬาฯ จึงมีสาขาหลายที่ และทำข้อตกลงร่วมกันกับสำนักพิมพ์ระดับโลกหลายที่เลย

อีกกรณีศึกษาหนึ่ง ที่ใช้หลักการนี้ก็คือเว็บ smashingmagazine.com ครับ เว็บนี้เป็นเว็บแนวหน้าเรื่องบทความชั้นเยี่ยมสำหรับคนไอที เค้าเขียนมาให้อ่านกันฟรีๆ เรียกได้ว่ามีอะไรให้เพิ่มรอยหยักในสมองได้เยอะมาก จนในที่สุดเค้าก็กลายเป็นผู้นำอีกเว็บในด้านนี้ หลังจากนั้น เค้าก็เริ่มมี ebook ออกมาจำหน่าย และแน่นอนว่ามีคนซื้อเยอะด้วย เพราะมั่นใจในคุณภาพ (ขนาดเขียนฟรียังขนาดนี้ แล้วแบบเสียตังค์มันจะขนาดไหน)

และนี่ก็คือเทคนิคง่ายๆ ที่ผมได้ลองมาแล้ว และได้ผลมาแล้ว ใครที่กำลังมองหาโอกาสในการสร้างงาน สร้างรายได้ และยกระดับอาชีพของตัวเอง ก็ลองนำไปประยุกต์ใช้นะครับ แล้วได้ผลอย่างไรอย่าลืมมาเล่าให้ผมฟังบ้างนะครับ :)

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลวส่วนบบุคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึก